2023 CVO^™ Road Glide^™

CVO Road Glide ถือกำเนิดขึ้นจากตระกูลอันมั่งคั่งที่มีมาก่อนหน้า และหล่อหลอมจากการทดสอบในอุโมงค์ลม พื้นผิวบนทุกชิ้นส่วนถูกรังสรรค์ขึ้นใหม่ให้ประณีตงดงามยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดรูปลักษณ์ที่ไหลลื่นตั้งแต่ปลายบังโคลนหน้าไปจรดส่วนท้ายของกระเป๋าห้อยท้าย

แฟริ่งทรงจมูกฉลามอันโด่งดังคืนชีพขึ้นอีกครั้งพร้อมซิลลูเอทระดับประติมากรรม ไฟ LED ที่ติดตั้งในตัวอย่างสมบูรณ์ และดีไซน์ใหม่ของชิลล์บังลม ด้วยการใช้การคำนวณพลศาสตร์การเลื่อนไหลเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของแอโรไดนามิก CVO Road Glide จึงได้สมรรถนะตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่เหมาะสมที่สุด พร้อมด้วยความสะดวกสบายของผู้ขับขี่ด้วยรูปลักษณ์ใหม่ที่ดุดันในดีไซน์แบบดั้งเดิม

ชุดไฟ LED แบบเต็มแผงที่ช่วยเพิ่มทัศวิสัยในระดับสูงสุด มาพร้อมสัญญาณไฟเลี้ยว และช่วยขับเน้นเส้นสายของแฟริ่งทรงจมูกฉลาม ทั้งหมดนี้ผสานอยู่ในดีไซน์ของ CVO Road Glide ได้อย่างแนบเนียน ก่อให้เกิดลุคโดดเด่นเป็นที่จดจำได้ทันทีไม่ว่าในเวลากลางวันหรือกลางคืน

ถังน้ำมันทรงหยดน้ำขนาด 22.7 ลิตรของ CVO Road Glide มาพร้อมทรงยาวเพรียว พร้อมรูปลักษณ์ที่ปรับแต่งมาเป็นอย่างดีและขอบเอียงสะดุดตา

CVO Road Glide มาพร้อมล้อซี่ขึ้นรูปแบบจัดเต็มขนาด 19” ที่ด้านหน้า และ 18” ที่ด้านหลัง พร้อมติดตั้งระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (TPMS)

นอกเหนือจากเส้นสายที่ดุดันกับโครงสร้างที่แข็งแกร่งของแฟริ่งและถังน้ำมันเชื้อเพลิงแล้ว ยังมีกระเป๋าห้อยท้ายที่มีความจุสัมภาระโดยรวมเพิ่มขึ้นซึ่งช่วยเติมเต็มท่าทีที่ดุดันของ CVO Road Glide คันนี้

มีจำหน่ายในสี Dark Platinum พร้อมลายทางสี Bright Smoked Satin หรือในสี Whiskey Neat และ Raven Metallic แบบทูโทนพร้อมดีเทลพ่นสีและลายทาง งานสีแต่ละแบบเสริมทัพด้วยส่วนเน้นสี Gloss Black/Chrome หรือ Scorched Chrome ในทุกแพ็คเกจสีที่เน้นเส้นสายตัวถังแบบใหม่และเน้นย้ำถึงพื้นฐานแนวคิดของ CVO ที่ใส่ใจในรายละเอียด

นวัตกรรมล่าสุดสำหรับการเชื่อมต่อของผู้ขับขี่ พื้นผิวที่ใสไร้แสงสะท้อนของหน้าจอสี TFT แบบทัชสกรีนขนาด 312 มม.  ที่มาแทนที่มาตรวัดแบบอะนาล็อก พร้อมระบบนำทางและระบบอินโฟเทนเมนต์ที่นำมาอยู่ใกล้แค่ปลายนิ้ว

ประสบการณ์บนแดชบอร์ดที่ปรับแต่งได้พร้อมตัวเลือกการแสดงผลที่เป็นเอกลักษณ์ 3 แบบ ระบบการนำทาง และชุดคุณสมบัติอินโฟเทนเมนต์ที่เชื่อมต่อในรูปแบบใหม่ทั้งหมดที่สนับสนุนโดย Skyline^™ OS

โหมดการขับขี่จะคอยควบคุมลักษณะการทำงานและระดับการเข้าแทรกแซงของเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยโดยอัตโนมัติ แต่ละโหมดของการขับขี่มาตรฐาน 3 โหมดและโหมดการขับขี่ที่คัสตอมได้ 2 โหมดทำให้การตั้งค่าผสานการทำงานของระบบส่งกำลัง ระบบเบรกเครื่องยนต์ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อกขณะเข้าโค้ง (C-ABS) และระบบควบคุมการยึดเกาะขณะเข้าโค้ง (C-TCS) มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

CVO Road Glide มาพร้อมระบบเสียงระดับพรีเมียม Rockford Fosgate^™ Stage II ที่มีแอมป์ RMS ขนาด 500 วัตต์ 4 แชนแนล ซึ่งจะมอบพลังเสียงให้กับลำโพงที่ติดตั้งบนแฟริ่งและกระเป๋าห้อยท้าย

Milwaukee-Eight VVT 121 คือระบบส่งกำลังที่มีความจุกระบอกสูบสูงที่สุดเท่าที่เคยติดตั้งมาจากโรงงานในมอเตอร์ไซค์ Touring ของ Harley-Davidson โดยมาพร้อมฝาสูบแบบระบายความร้อนด้วยของเหลว วาล์วแปรผัน (VVT) และระบบเดินท่อไอดีแบบใหม่ ความจุกระบอกสูบที่เพิ่มขึ้นจะให้กำลังและแรงบิดมากกว่าเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 ขณะที่ VVT จะเพิ่มช่วงค่ากำลังโดยรวมและช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น

เมื่อประกอบกับท่อกรองเสียงและงานสีระดับพรีเมียมแล้ว ระบบไอเสียแบบ High-flow จะยิ่งช่วยให้เครื่องยนต์มีสมรรถนะสูงขึ้น พร้อมให้เสียงและสไตล์ที่ดียิ่งขึ้น

CVO Road Glide ปี 2023 เบากว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 15 กก. ซึ่งช่วยเสริมสมรรถนะในทุกๆ ด้าน รวมถึงการเร่งความเร็วและการเบรก

โช้คแบบหัวกลับขนาด 47 มม. แบบใหม่และโช้คระดับพรีเมียมพร้อมระยะยุบตัว 76 มม. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมและความสบายของผู้ขับขี่

ดิสก์เบรกคู่หน้าเส้นผ่านศูนย์กลาง 320 มม. พร้อมคาลิปเปอร์เบรก 4 ลูกสูบติดตั้งแบบเรเดียลจาก Brembo^™ ที่ด้านหน้า และคาลิปเปอร์เบรก 4 ลูกสูบแบบเดี่ยวพร้อมโรเตอร์เส้นผ่านศูนย์กลาง 300 มม. ที่ด้านหลังช่วยให้สัมผัสและประสิทธิภาพในการเบรกโดยรวมที่ดียิ่งขึ้น

ด้วยการออกแบบที่ตั้งใจให้มอเตอร์ไซค์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพควบคู่ไปกับระบบการยึดเกาะที่มีให้ในขณะเร่งความเร็ว ชะลอความเร็ว และขณะเบรก ระบบนี้ใช้การควบคุมแชสซี ระบบควบคุมเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีของระบบส่งกำลังรุ่นล่าสุด เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ขณะขับขี่ในสภาพถนนที่ไม่เอื้ออำนวย

ดีไซน์ของชิลด์บังลมพัฒนาขึ้นโดยใช้การคำนวณพลศาสตร์การเลื่อนไหลและการวิเคราะห์ภายในอุโมงค์ลมควบคู่กับการออกแบบแฟริ่งใหม่ ซึ่งช่วยลดการปะทะของลมและความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ ขณะที่ใบพัดแบบปรับได้จะช่วยเพิ่มความสบายเพราะสามารถปรับการไหลของอากาศได้อย่างเหมาะสม

เบาะนั่งระดับพรีเมียมมีรูปทรงใหม่พร้อมแฮนด์บาร์ที่กว้างขึ้นและราบขึ้น อีกทั้งคันเกียร์แบบปรับได้ก็ช่วยให้ปรับท่วงท่าของผู้ขับขี่อยู่ในรูปสามเหลี่ยมได้อย่างเหมาะสมเพื่อเพิ่มความสบายและลดความเมื่อยล้าระหว่างขับขี่เป็นเวลานาน

โช้คแบบใหม่ที่ปรับได้ด้วยรีโมตช่วยเพิ่มระยะการเดินทางได้ถึง 50%% c เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ซึ่งช่วยเพิ่มความสบายให้กับผู้ขี่ได้เป็นอย่างดี

สำหรับวันที่อากาศหนาวเย็น เราก็มีมือจับแบบทำความร้อนได้และการเชื่อมต่อโดยเสียบสายไว้ล่วงหน้าสำหรับคันเกียร์แบบทำความร้อนได้ ซึ่งมีให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานใน CVO Road Glide